นักเขียนคนที่พูดถึงเรื่องนี้เธอเป็นหญิงสาว แต่ไม่โสด อายุราวๆสามสิบเห็นจะได้ หนังสือเล่มล่าสุดของเธอชื่อ “ฆาตกรรมในเรือนแพ” ช่างโรแมนติกและเร้าอารมณ์ตื่นเต้นดีเหลือเกิน หนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมจากนักอ่านเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นขายกันระเบิดเป็น Best seller ของปีทีเดียว
ไม่มีใครรู้หรอกว่า แอ็กเนส เดย์ นักเขียนชื่อกระฉ่อนคนนี้ได้ใช้วิธีสร้างความกดดันให้ตัวเองโดยการ”ทำให้คนอื่นแสบ”มานักต่อนัก ใครๆก็อยากฆ่าเธอทั้งนั้น
ปกติเธอจะอาศัยอยู่ในทาวน์เฮาส์หรูกลางกรุง ยกเว้นช่วงที่เธออยากจะเขียนเรื่อง เธอจะปลีกตัวไปยังบังกะโลหลังเล็กส่วนตัวที่ริมหาดตรงข้ามเกาะบีเกิ้ล เพื่อตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงจนกว่านิยายเรื่องใหม่จะเสร็จ นิยายเรื่องใหม่นี้เธอให้ชื่อว่า “ฆาตกรรมของฉัน”
ที่บังกะโลของเธอมีแต่เพียงโทรศัพท์และจักรยานเท่านั้น ที่จะเป็นเครื่องมือติดต่อกับโลกภายนอกได้ และทุกขณะที่เขียนเรื่องอยู่ข้างคอมพิวเตอร์คู่กาย รีวอลเวอร์เงาวับกระบอกนั้นถูกวางอยู่ข้างกายตลอดเวลา
ครั้งล่าสุด แอ็กเนสเกือบถูกเผาทั้งเป็นในบังกะโล โชคดีที่ว่าเธอตื่นมาดับไฟได้ทันเสียก่อน จากนั้นจึงจ้างตำรวจนอกเครื่องแบบคอยจับตามองคนที่เธอสงสัยตลอดเวลา และให้โทรศัพท์มารายงานทุกๆเช้า
ศัตรูของแอ็กเนส ก็แทบจะเป็นคนใกล้ชิดทั้งนั้น รวมทั้งสามีของเธอด้วย มอนตี้ เดย์ สามีของเธอไปมีอีหนูลับๆชื่อ นอร่า บาร์เนส นักวิทยาศาสตร์ชำนาญด้านเห็ดรา (นักสืบของเธอสืบมาให้) เรื่องนี้ทำให้แอ็กเนสกลัวที่จะถูกปองร้ายโดยเห็ดพิษ นอร่าเองก็ไม่ใช้คนมีฐานะอะไรนัก มอนตี้จึงหวังว่าหากแอ็กเนสตายไป สมบัติทั้งหลายจะตกเป็นของตนอย่างแน่นอน จึงไม่ยอมหย่าจากแอ็กเนสเด็ดขาด
คนต่อไปคือ แบรดฟอร์ด ฟิลด์ เอเย่นต์ประจำตัวที่คอยจัดการด้านธุรกิจการขายให้เธอ ซึ่งเธอจับได้ว่าแบรดฟอร์ดมีอะไรๆไม่ชอบมาพากล เพราะรายได้ที่ควรจะได้มันหายไปเฉยๆตั้งหลายแสนเหรียญ แบรดฟอร์ดเองก็รู้ตัวว่า แอ็กเนสรู้ระแคะระคาย ฉะนั้น เขาคงจะไม่ยอมถูกไล่ออกให้เสียชื่อเสียงตัวเอง เพราะมันอาจจะทำให้เขาเสียลูกค้ารายอื่นๆไปด้วย ฉะนั้นเขาอาจคิดฆ่าเธอก็ได้ ภูมิหลังของแบรดฟอร์ดเคยเป็นทหารรับจ้างมากก่อน แถมเป็นคนอารมณ์รุนแรงอีกด้วย ใครๆก็สันนิษฐานว่า เขาคือคนที่พยายามวางเพลิงลอบฆ่าแอ็กเนส นั่นเอง
เฮนเรียตต้า ซีมัวร์ ผู้ดูแลหอพักในเมืองแวร์วิลล์ ผู้ซึ่งสามีของเธอเคยมาติดพันอยู่กับแอ็กเนสหลายปีแล้ว ขณะนี้แม้ว่าเขาจะย้ายไปอยู่ออสเตรเลียแล้วก็ตาม ความเกลียดชังของเฮนเรียตต้า ที่มีต่อแอ็กเนสก็ยังไม่สิ้นสุดไป
คนสุดท้ายคือ แจ็กเกอลีน ลีเวล เลขาส่วนตัวคนก่อนของเธอที่ถูกไล่ออกไปเพราะเป็นโรคประสาท แจ็กเกอลีน ทึกทักว่า แอ็กเนสไปขโมยต้นฉบับเรื่อง “ฆาตกรรมในเรือนแพ” ของเธอ ถึงขนาดขู่จะฆ่าแอ็กเนสในที่สาธารณะมาหลายครั้งแล้ว
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่แอ็กเนส พักจากงานเขียน มีโทรศัพท์จากสายสืบรายงานเข้ามาว่า
“เมื่อเวลาเช้า 8.10 น. ตำรวจท้องที่ของเมืองแวร์วิลล์เห็นแฮเรียตต้า กำลับช้อปปิ้งอยู่ในเมือง ระยะเวลาวิ่งของรถจากเมืองแวร์วิลล์ถึงบังกะโลของแอ็กเนส จะกินเวลาถึง 1 ชั่วโมง กับอีก 20 นาที แต่ปกติแฮเรียตต้าไม่ได้ขับรถ และไม่มีรถจะขับ”
ส่วนสายสืบที่เมืองโบเวอร์ตัน ก็รายงานว่า เมื่อเวลา 8.30 น.เห็นคุณแบรดฟอร์ดกำลังซื้อตั๋วรถไฟเที่ยวเดียวเพื่อไปยังสถานีเวฟเวอลี่ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้บังกะโลของแอ็กเนสมากที่สุด รถไฟออกจากโบเวอร์ตัน เวลา 9.30 น.และใช้เวลาแล่นอีก 50 นาที จึงจะถึงเวฟเวอลี่ จากที่นี่ก็ต้องเดินอีก 17 นาที จึงถึงบังกะโล
และ ณ เวลา 8.07 น.มอนตี้ บินออกจากเมืองแซนด์แบงก์ ด้วยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว ต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงกับอีก 5 นาที จึงจะมาถึงบังกะโลได้
ส่วนแจ็กเกอลีน ลีเวล เลขาโรคประสาทนั้น พักอยู่ในโรงแรมที่เมืองแคลคเมาท์ ริมชายหาดด้านเดียวกัน มีตำรวจทางหลวงมองเห็นเธอขับรถออกจากแคลคเมาท์ มาทางบังกะโลของแอ็กเนสเมื่อเวลา 8.32 น. ปกติรถวิ่งจากแคลคเมาท์มาบังกะโลแอ็กเนส ต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงกับอีก 15 นาที ถึงจะขับรถมาถึง
ส่วนนอร่า นั้นเริงร่าอยู่บนชายหาดเกาะบีเกิ้ล เมื่อเวลา 8.30 น. และเที่ยวเดินเก็บเห็ดชนิดต่างๆ มอนตี้บินมาส่งเธอก่อนหน้านี้และคงกะว่าจะกลับมารับช่วงบ่ายๆจากเกาะนี้ไม่มีเรือแล่นเข้าหาฝั่งเลย และกระแสน้ำก็เชี่ยวขนาดนักว่ายน้ำก็ยังว่ายข้ามมาไม่ไหว
แต่แล้วเวลา 10.12 น. ศพของแอ็กเนสถูกพบ!!! ในสภาพคว่ำหน้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์คู่ชีพนั่นเอง ที่คอมีถุงน่องรัดอยู่ ปืนยังคงวางอยู่ที่เดิมข้างๆเครื่องคอมพิวเตอร์ แพทย์ชันสูตรแล้ว รายงานว่าเธอตายมาก่อนหน้านี้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง ตำรวจจึงรีบติดต่อสายสืบของเธอและพยายามควานหาตัวผู้ต้องสงสัยทันที แต่ปรากฏว่า…
แบรดฟอร์ด ดูจะพ้นจากข้อสงสัย เพราะแบรดฟอร์ดต้องลงรถไฟเวลา 9.53 น. กว่าจะเดินไปยังบังกะโลของแอ็กเนสคงถึงเวลา 10.10 น. ซึ่งก็เป็นเวลาที่เขาพบศพเธอแล้วรีบแจ้งตำรวจท้องที่
แฮเรียดต้า อยู่บ้านเวลา 10.30 น. ขณะที่ตำรวจโทรศัพท์เข้ามา เธอบอกว่าเธอไม่ได้ไปไหน แต่อยู่ในบ้านคนเดียวตั้งแต่เวลา 8.30 น. เป็นต้นมา
มอนตี้ ไปทำธุระที่แฮร์ฟิลด์ และลงจอดเวลา 9.48 น. (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 41 นาที จากแซนด์แบงก์) และระยะบินจากแฮร์ฟิลด์ไปยังบังกะโลก็ต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงกับ 31 นาที
แจ็กเกอลีน ขับรถกลับมาโรงแรมหลังจากเวลานี้ และให้การว่า ออกไปขับรถเล่นกินลมให้สบายใจ
นอร่า นั้นยังอยู่บนเกาะ ขณะที่ตำรวจน้ำไปรับตัวมาสอบสวน เธอบอกว่า เธอไม่ได้ไปไหนเลย ซึ่งจากหลักฐานต่างๆก็บ่งบอกเช่นนั้น
วัตสันถูกเพิ่มชื่อเข้ามาพัวพันกับคดีนี้อีกคนในฐานะนักสืบ ซึ่งได้รับการขอร้องจากตำรวจท้องที่ เพื่อจะหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะใครๆก็รู้จักแอ็กเนส หากข่าวการตายแพร่สะพัดออกไปโดยยังจับ หรือหาเบาะแสคนร้ายไม่ได้ ตำรวจคงจะเสียชื่อเป็นแน่
ใครฆ่าแอ็กเนส?
หากคุณไม่รู้ว่าใครคือคนร้าย เรามีตัวช่วย :
- แอ็กเนสน่าจะถูกฆาตกรรมช่วงเวลาใด?
- ผู้ต้องสงสัยรายใด ที่มีโอกาสมาถึงบังกะโลก่อนเวลาที่จะเกิดการฆาตกรรม (เร็วที่สุด) และยังสามารถกลับไปถึงที่ๆตำรวจติดต่อมาได้ หลังจากการฆาตกรรมนั้นไปแล้ว
- ถ้าผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 ราย ไม่มีใครตรงล็อคของเวลาฆาตกรรม แล้วฆาตกรรมรายนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
Sign up here with your email
ConversionConversion EmoticonEmoticon