case 6 คดีฆาตกรรมบนเรือสำราญ

คนเราเวลาไม่ชอบกันก็อาจรู้สึกเกลียดกัน อาฆาตกัน ถ้าบางคนหนักๆหน่อยก็อาจหาทางออกด้วยวิธีกำจัดคนที่เกลียดด้วยการฆ่า ส่วนเวลาและสถานที่ในการลงมือ มักเป็นช่วงที่ผู้ถูกฆ่าไม่ได้รู้ตัวมาก่อน เช่น ช่วงที่ไปเที่ยวพักผ่อนบนเรือสำราญอย่างเช่นคดีนี้

เย็นวันหนึ่งเวลาประมาณ 17.25 น. ขณะที่คนใน”บ้านริมน้ำ” กำลังทานอาหารเลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน ก็มีอันต้องแตกตื่นด้วยความตกใจจนขนหัวลุก เพราะมีศพลอยตามน้ำผ่านหน้าบ้านมา


ในช่วงเวลาเดียวกันมีเรือสำราญ 2 ลำ แล่นอยู่บริเวณนี้ด้วย ลำแรกคือเรือมาเรีย (MARIA) ซึ่งแล่นทวนกระแสน้ำไปด้วยความเร็ว 7 นอต (หรือ 7 ไมล์ทะเลต่อชั่วโมงนั่นเอง) 


อีกลำคือเรือนาเดีย (NADIA) ซึ่งแล่นตามน้ำมาด้วยความเร็ว 5 นอต เรือทั้งสองแล่นสวนกันที่หน้า “ยุ้งฉางร้าง” เมื่อเวลา 16.05 น. เรือนาเดียแล่นมาถึงหน้าบ้านริมน้ำในเวลาเดียวกับที่ศพถูกคนพบเห็นพอดี เมื่อตำรวจได้รับแจ้งจากคนในบ้านริมน้ำแล้ว ตำรวจได้วิทยุติดต่อไปยังกัปตันเรือให้ยุติการทัศนาจรของเรือสำราญทั้ง 2 ลำ เพื่ออายัดตัวผู้โดยสารของเรือทั้งหมดมาทำการสอบสวน

ศพคนที่ตายในน้ำ เป็นชายวัยกลางคน แต่งตัวค่อนข้างดี มีบัตรติดตัวมาหลายอย่างตั้งแต่บัตรประชาชน ใบขับขี่ รถยนต์ และนามบัตร ทำให้ทราบว่าผู้ชายชื่อ บั๊ด มินสกี้ มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการแผนกขายของบริษัท โบโซ่ โคล่า แพทย์ชันสูตรศพลงความเห็นว่าผู้ตายถูกรัดคอตายก่อนถูกทิ้งลงน้ำ ฆาตกรรีบร้อนมากจนไม่ได้ถอดชูชีพออกจากตัวผู้ตาย



จากการสอบสวนผู้โดยสารของเรือมาเรียปรากฏว่า ชาวคณะของแผนกขายสินค้า โบโซ่ โคล่า มากับเรือนี้ทั้งชุด ตำรวจจึงเพ่งเล็งความสงสัยมายังผู้โดยสารของเรือลำนี้ การสอบสวนจึงได้เริ่มต้นขึ้น จนกระทั่งขมวดปมแคบลงมาได้ว่า มีผู้โดยสารอยู่ 8 คน รวมทั้งตัวของผู้ตายด้วย ที่ได้มีโอกาสขึ้นมาบนกราบเรือ (ซึ่งเปิดโอกาสให้ฆาตกรลงมือฆาตกรรม) 


ทั้ง 7 คนนี้ปรากฏว่าเป็นนักขายมือเซียนของบริษัท โบโซ่ โคล่า ทั้งสิ้น และแต่ละคนก็หวังว่าตัวเองจะมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไป และนี่ก็คือ ผลสรุปจากคำให้การของคนทั้งหมด

แซม เฟนเนอร์ ขึ้นมาที่กราบเรือ ก่อนเวลา 14.00 น. เพียงนิดเดียวพร้อมๆกับ วูดดี้ แฮนสัน


แซมยืนอยู่สัก 2-3 นาที แล้วก็ลงไปใต้ท้องเรือ เจอกับ รูธ แก๊สเกล ที่บาร์เหล้า


รูธ บอกว่า เธอเห็นแซมลงมาเวลา 14.10 น. และอยู่ดวลเหล้าต่อถึงเวลาไหนก็ไม่รู้ เพราะเธอขอตัวขึ้นไปบนกราบเรือก่อน ตอนเวลา 15.30 น.


รูธ ขึ้นไปก็เพื่อจะหาตัวบั๊ด เจ้านายของเธอ แต่ไม่เจอ หลังจากเหลียวไปเหลียวมาสัก 2 นาที ก็กลับลงไป


วู๊ดดี้ แฮนสัน หลังจากอยู่บนกราบเรือได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ถึง เวลา 14.30 น ก็กลับลงมาสวนเข้ากับ แจ๊ค อังเกอร์ ซึ่งขึ้นมาบนกราบเรือ


แจ๊คเองบอกว่าเขาอยู่บนกราบเรือเพียง 15 นาที ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันโดย วิ้นซ เจอร์เก้น ที่บอกว่า ขณะที่ตัววินซ์ขึ้นมาบนกราบเรือเวลา 14.50 น.นั้น เขาก็ไม่เห็นแจ๊คเลย


วิ้นซ์บอกต่ออีกว่าเขาอยู่บนกราบเรือถึงเวลา 15.15 น.ก็ลงไปเล่นไพ่ข้างล่าง


คนในวงไพ่ส่วนใหญ่ ไม่ขยับไปไหนเลยตลอดเวลา มีเพียง 2 คน คือซูซาน ซาร์มเมอร์ กับ เท็ด เบินส์ ที่ขอตัวขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างบน เวลาเดียวกับที่เรือนาเดียสวนมาพอดี


ซูซาน ยังคงอยู่บนกราบเรือต่อไปอีก 20 นาที ส่วน เท็ด นั้นอยู่ต่ออีกเกือบชั่วโมง


ระยะทางระหว่างยุ้งฉางร้าง กับบ้านริมน้ำ ห่างกัน 12 ไมล์ทะเล
ตำรวจเองกงุนงงเหมือนกันว่าใครเป็นคนฆ่าบั๊ด แต่นักสืบวัตสัน สามารถใช้ข้อมูลเพียงแค่นี้บอกตัวคนร้ายได้ แล้วคุณล่ะ?



ปริศนาท้าความคิด

  • คำนวณเวลาที่ศพถูกทิ้งลงน้ำได้ไม่ (ผิดพลาดไม่เกิน 10 นาที)?
  • เขียนตารางให้เป็นลำดับ ถึงเวลาที่คนทั้ง 7 ขึ้นมาอยู่บนกราบเรือ? 
  • ใครฆ่าบั๊ด?

Previous
Next Post »

1 ความคิดเห็น:

Write ความคิดเห็น
Unknown
AUTHOR
12 กันยายน 2560 เวลา 10:58 delete

จากการคำนวณที่ไม่มีสูตร มั่วๆ ดังนี้(ผมไม่เก่งฟิสิกส์ครับ)
เรือนาเดียเดินทางจากยุ้งฉางมาบ้านริมน้ำ ใช้เวลา80นาที(16.05-17.25) ด้วยความเร็ว5นอต แสดงว่าแรงน้ำไหลจะเร็ว!#@%$#^%^$%* เริ่มมั่วแล้ว งงมาก เอาเป็นว่าผมคำนวณความเร็วเรือกับแรงน้ำไหล เอาความเร็วเรือลบออกจะเหลือแรงน้ำไหล แล้วย้อนดูว่าศพถูกทิ้งจากตรงไหน แล้วตอนนั้นเรือมาเรียที่วิ่งด้วย7นอตเนี่ย ตอนที่อยู่ตรงนั้นควรเป็นเวลาเท่าไหร่ ซึ่งเอามาไล่ดูกับเวลาที่ผู้ต้องสงสัยขึ้นกราบเรือ ปรากฎว่ายิ่งคำนวณยิ่งดูมั่ว เอาเป็นว่าผมทายว่าศพถูกทิ้งประมาณ15.30 ซึ่งตรงกับรูธที่ขึ้นมาแล้วบอกว่าไม่เจอผู้ตาย ถ้าเกิดว่าเจอแล้วจัดการผู้ตาย เขาก็มีเวลาจัดการกับคนร้ายตั้ง35นาทีก่อนคนขึ้นมา แต่ผมคาใจตรงประเด็นที่ว่าคนร้ายรีบร้อนเนี่ยดิ งงมากครับคดีนี้ แต่ขอทายว่า รูธ

Reply
avatar